ผ้าไตร

ผ้าไตรหรือผ้าไตรจีวร 5 ขันธ์ และ 9 ขันธ์ ต่างกันอย่างไร และเลือก ผ้าไตร สิ่งของสำหรับงานบวชอย่างไร

ผ้าไตรจีวร / ผ้าไตร สำหรับเตรียมตัวจัดงานบวชน้ัน หลายท่านจะมีความสับสนการเลือกและไม่เข้าใจว่า ทำไมบางครั้งที่ร้านขายผ้าไตรจะถามเราว่า เอาแบบ 5 ขันธ์หรือ 9 ขันธ์ บทความนี้จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกผ้าไตรสำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อผ้าไตรสำหรับเตรียมในงานบวชให้กับลูกหลาน หรือ จัดหาเพื่อถวายผ้าไตรแด่พระภิกษุ ผ้าไตร / ผ้าไตรจีวร คืออะไร ผ้าไตร คือ ผ้าที่พระสงฆ์ใช้นุ่งครอง หรือผ้าเหลืองที่เราเห็นพระสงฆ์นุ่งห่มนั่นเอง บางครั้งชาวบ้านก็จะเรียกผ้าที่พระครองว่า ผ้าไตรจีวรหรือผ้าจีวร แต่ทำไมถึงเรียกว่าผ้าไตร คำว่า ไตร หมายถึง ไตรที่แปลว่า สาม ดังนั้นในความหมายของผ้าไตรในการแปลแบบตรงไปตรงมา ก็จะหมายถึง ผ้าสามผืนนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเรากล่าวถึงผ้าไตร ก็จะเข้าใจตรงกันในความหมายเดียวกันคือ ผ้าสามผืนที่พระสงฆ์ใช้สำหรับนุ่งครอง ซึ่งในผ้าไตร 3 ผืน ก็จะประกอบไปด้วย ผ้าจีวร หรือ ผ้าห่ม ซึ่งพระสงฆ์จะเรียกว่า อุตราสงค์ ผ้าสบง หรือ ผ้านุ่ง ซึ่งพระสงฆ์เรียกว่า อันตรวาสก สังฆาฏิ หรือ ผ้าซ้อน/ผ้าพาดบ่า ผ้าไตร ส่วนใหญ่มักนิยมเรียกย่อๆ ว่า …

สังฆทานชุดอโรคาปรมาลาภา

ความเป็นมาของการ ทำบุญวันเกิด

การ ทำบุญวันเกิด นั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างเมื่อครั้งยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง โดยมีพระราชดำริว่า “การที่คนเรามีอายุวนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง โดยไม่ตายไปเสียก่อน ถือเป็นลาภอันประเสริฐ จึงควรยินดี บำเพ็ญกุศลและ ทำบุญวันเกิด ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่ง เมื่อรู้เช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิตเสียได้“ จึงทำให้เกิดการ ทำบุญวันเกิด ขึ้นเรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา ขึ้น โดยมีการสวดมนต์เลี้ยงพระจำนวน 10 รูป และถวายสิ่งของแก่พระสงฆ์ เป็นการทำแบบเงียบๆ ต่อมาก็มีเจ้านาย ขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น และสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แนะนำเสริมดวงวันเกิด ด้วยชุดกำลังวัน เสริมดวงเกิด นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อในสมัยพุทธกาลด้วยว่า สมัยนั้นมีสามีภรรยาพาลูกน้อยไปหาพราหมณ์ แต่พราหมณ์ทักว่าเด็กน้อยจะเสียชีวิตภายใน 7 วัน และแนะนำให้ทั้งสองคนพาลูกน้อยไปหาพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ได้ออกอุบายนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระปริตร ตลอด 7 วันอันตราย เมื่อถึงเวลาที่ภัยจะมาทำร้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเด็กน้อยนอนฟังสวดพระปริตรอยู่ และด้วยพุทธานุภาพ ทำให้เด็กคนนั้นมีอายุยืนยาวถึง 120 …

กฐิน

กฐิน และ ผ้าป่า คืออะไร ? และมีอานิสงส์เสริมดวงชีวิตอย่างไร

กฐิน เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้ โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด1 ดังนั้นกฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ ซึ่งนอกจากในพระวินัยฝ่ายเถรวาทแล้ว กฐินยังมีในฝ่ายมหายานบางนิกายอีกด้วย แต่จะมีข้อกำหนดแตกต่างจากพระวินัยเถรวาท   กฐินคืออะไร กฐิน เป็นศัพท์บาลี แปลตามศัพท์ว่าไม้สะดึง คือ “กรอบไม้” หรือ “ไม้แบบ” สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรในสมัยโบราณ ซึ่งผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน (ผ้าเย็บจากไม้แบบ) อาจจำแนกตามความหมายเพื่อความเข้าใจง่ายได้ดังนี้ กฐินเป็นชื่อของกรอบไม้แม่แบบ (สะดึง) สำหรับทำจีวร ดังกล่าวข้างต้น กฐินเป็นชื่อของผ้าที่ถวายแก่พระสงฆ์เพื่อกรานกฐิน (โดยได้มาจากการใช้ไม้แม่แบบขึงเย็บ) กฐินเป็นชื่อของงานบุญประเพณีถวายผ้าไตรจีวรแก่พระสงฆ์เพื่อกรานกฐิน กฐินเป็นชื่อของสังฆกรรมการกรานกฐินของพระสงฆ์ กฐินมีที่มาอย่างไร กฐิน เป็นบุญถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ ซึ่งจำพรรษาแล้ว เริ่มตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึง …

ทำบุญ

ถวายสังฆทานและทำบุญ ให้ผู้ล่วงลับต้องมีอะไรบ้าง ธาราญามีคำตอบ

ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้นได้เลย จะต่างกันก็เพียงแต่จะช้าหรือจะเร็วเท่านั้นเอง การเตรียมงาน ทำบุญ ดำเนินการเกี่ยวกับ พิธีศพ ตามลัทธิประเพณีนิยม เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ตายและเป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว งานศพ ซึ่งในแต่ละพิธีการจะมีข้อปฏิบัติและสิ่งของที่ควรจัดเตรียมในงานศพ ดังนี้ การจัดงานศพและ ทำบุญให้ผู้ล่วงลับ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?  พิธีรดน้ำศพ เริ่มต้นหลังจากนำศพใส่โลงเรียบร้อยแล้ว เป็นพิธีที่ทำเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่ล่วงลับ โดยเจ้าภาพมักจะเชิญคนสนิท ญาติ หรือคนที่รู้จักไปร่วมพิธีรดน้ำศพ โดยทำการเคารพศพ และเทน้ำอบที่ได้จัดเตรียมไว้ลงบนฝ่ามือ และอโหสิกรรมให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีสวดอภิธรรม  เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศบุญส่วนกุศล และระลึกถึงคุณความดีของผู้ที่ล่วงลับ ด้วยการนิมนต์พระ จำนวน 4 รูป เพื่อมาสวดบทอภิธรรมที่มีความหมายเกี่ยวกับสัจธรรมของชีวิต ซึ่งโดยปกติแล้วในงานสวดอภิธรรมมักจะนิยมสวด 1 คืน 3 คืน 5 คืน และ 7 คืน ในส่วนนี้เองเจ้าภาพต้องมีการจัดเตรียม “สังฆทานงานศพ” หรือเครื่องไทยธรรม และสบง จำนวน 4 ชุด เพื่อทำบุญถวายพระสวดอภิธรรม และบังสุกุล(คลิกอ่านความหมาย)ให้กับผู้เสียชีวิตในแต่ละคืน พร้อมปัจจัยถวายพระ 4 รูป ตามแต่กำลังศรัทธา …

ทำบุญออนไลน์

ทำบุญออนไลน์ได้บุญอย่างไร ธาราญามีคำตอบและแนะนำเว็บทำบุญออนไลน์

หลายคนสงสัยกันว่าทำบุญออนไลน์ได้บุญไหม ได้ผลจริงหรือเปล่า? แม้ว่าเราจะไม่ได้ไปถึงวัด ไม่ได้จุดธูปไหว้พระ ฟังธรรม ไม่ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบร่มเย็นเหมือนอย่างที่คุ้นเคยกันมา แต่บอกเลยว่าได้บุญไม่ต่างกันแน่นอน เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนไม่ให้เรายึดติด อะไรที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน บอกเลยว่าดีทั้งนั้น และหัวใจสำคัญของการทำบุญคือ ลด ละ เลิก จากกิเลสทั้งปวง เพราะจริง ๆ แล้วการทำบุญ เราสามารถทำได้ทุกรูปแบบ ไม่จำกัดเพียงแค่การถวายเงิน หรือสิ่งของเท่านั้น อย่างเช่น การทำความดี คิดดี พูดดี ก็คือการทำบุญอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือขอเพียงแค่ใจเรามีความสุจริตเป็นที่ตั้ง และจิตอันเป็นกุศล ไม่ว่าจะทำบุญรูปแบบไหน แค่เราพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ ล้วนแต่เกิดเป็นผลบุญทั้งนั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่มองว่าการทำบุญออนไลน์มีความเสี่ยง ไม่มั่นใจว่าเงินของเราจะถูกนำไปใช้ตามเป้าหมายจริง ๆ กลัวว่าจะถูกหลอกเอาได้ ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันเราสามารถตรวจสอบช่องทางที่เราจะทำบุญได้แล้ว หรือถ้าไม่มั่นใจก็เลือกทำบุญออนไลน์ กับหน่วยงานที่มีความชัดเจน มีความน่าเชื่อถือ เช่น ทำบุญออนไลน์โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคให้มูลนิธิ บริจาค e-Donation ผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เรียกได้ว่าการทำบุญออนไลน์เป็นทางเลือกที่เข้ากับยุคสมัยและเหมาะสถานการณ์จริง ๆ ปัจจจุบันการทำบุญสามารถทำได้มากมายหลายแบบ ส่วนจะเป็นบุญหรือไม่นั้น มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ 1.ก่อนทำบุญควรคิดถึงแต่สิ่งดีๆไม่ฟุ้งซ่าน …

การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม

การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม มีจริงหรือไม่ ตอนที่ 3 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม มีจริงหรือไม่ ตอนที่ 3 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ประการที่สอง ต่อนี้ไปจะให้ญาติโยมทั้งหลายรับศีล การสมาทานศีลมีอานิสงส์ ๓ อย่างคือ ความหมายของการรับศีล (การแก้กรรม การสะเดาะเคราะห์ ตอนที่ 3) ๑. สีเลนะ สุคะติง ยันติ คนที่มีศีลอยู่แล้ว เวลามีชีวิตอยู่ก็มีความเป็นปกติสุข ตายจาดความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้ามีความสุข   ๒. สีเลนะ โภคะสัมปะทา ในขณะที่มีชีวิตอยู่เรามีศีลบริสุทธิ ทรัพย์สินก็ไม่เปลืองก็มีการเป็นอยู่ดีในการครองทรัพย์สิน ตายไปก็ร่พรวยมาก   ๓. สีเลนะ นิพพุติง ยันติ คนที่รักษาศีลได้ดี จะไปนิพพานได้โดยง่าย   นี่คือ “อานิสงส์ของศีล” หลังจากนั้นไปจะให้ญาติโยมพุทธบริษัท เจริญวิปัสสนา คือ “เจริญกรรมฐาน” ใช้กำลังพุทธานุสติกรรมฐานเป็นกำลัง นี่เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา บุญในพระพุทธศาสนามี ๓ ชั้น คือ ทาน ศีล ภาวนา   …

การแก้กรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม ในศาสนาพุทธ มีจริงหรือไม่ ตอนที่ 2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม ตามหลักพุทธศาสนานั้น เราจะต้องรู้จักว่า เรามีอะไรเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ เกิดเคราะห์ร้ายขึ้นในชีวิต เราค้นหาเหตุนั้นให้พบ เมื่อพบเหตุนั้นแล้วตัดเหตุนั้น คือเลิกไม่ประพฤติ ไม่ปฏิบัติในเรื่องนั้นต่อไป อย่างนี้เรียกว่า สะเดาะเคราะห์เด็ดขาด เคราะห์ร้ายจะไม่เกิดขึ้นแก่เราต่อไป การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรม จากร้ายให้กลายเป็นดี หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง การสะเดาะเคราะห์ ซึ่งคัดจากหนังสือสมบัติพ่อให้เล่ม ๑ หน้า ๒๔๓ –๒๔๘ ทั้งนี้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวถึงพิธี ได้กล่าวไว้ว่า คำว่า เคราะห์กรรม เป็นวิธีเรียกของ “พราหมณ์” ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า กฎของกรรม คณาจารย์ต่างๆ เรียกไม่เหมือนกันแต่ผลมันเหมือนกันนั่นคือ “ความทุกข์” ถ้าอยากทราบว่าความทุกข์มาจากไหน..ก็จะเล่าให้ฟัง ! ประการแรก การป่วยไข้ไม่สบายทางร่างกาย มาจากกรรมปาณาติบาต การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ประการที่ ๒ ความทุกข์เกิดจากไฟไหม้บ้าง ขโมยปล้น ขโมยจี้ ลมพัดให้บ้านพัง น้ำท่วม มาจากโทษอทินนาทาน การลักขโมยของเขาจากชาติก่อน ประการที่ ๓ เคราะห์กรรมที่ทำให้คนใต้บังคับบัญชาดื้อด้าน ว่ายากสอนยากไม่เชื่อฟัง …

การสะเดาะเคราะห์

การสะเดาะเคราะห์ แก้กรรม ในศาสนาพุทธมีจริงหรือไม่ ตอนที่ 1(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)

 การสะเดาะเคราะห์ตามหลักพุทธศาสนานั้น เราจะต้องรู้จักว่า เรามีอะไรเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ เกิดเคราะห์ร้ายขึ้นในชีวิต เราค้นหาเหตุนั้นให้พบ เมื่อพบเหตุนั้นแล้วตัดเหตุนั้น คือเลิกไม่ประพฤติ ไม่ปฏิบัติในเรื่องนั้นต่อไป อย่างนี้เรียกว่า สะเดาะเคราะห์เด็ดขาด เคราะห์ร้ายจะไม่เกิดขึ้นแก่เราต่อไป อะไรๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา มันขึ้นอยู่กับความคิด การพูด การกระทำ การคบหาสมาคม การไปการมาของเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจของภายนอก ไม่มีอำนาจอะไรภายนอก ที่จะมาเราให้เป็นอะไร ให้ดีก็ไม่ได้ ให้ชั่วก็ไม่ได้ ความดี ความชั่ว ความสุข ความทุกข์ ความเสื่อม ความเจริญ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น เกิดจากตัวเราเอง (พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี) คือเราทำ ให้มันเกิดขึ้น เราคิด เราพูด เราทำ เราคบหาสมาคม เราไปมาในที่ต่างๆ แล้วมันก็เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเรา ไม่ได้เกิดอำนาจอะไรภายนอก แม้จะมีเรื่องภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่ใช่ตัวการใหญ่ ตัวการใหญ่มันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น แต่ว่าคนเรานั้นมีความผิดประจำตัวอยู่ประการหนึ่ง คือไม่ยอมรับว่าตัวผิดคนที่ทำอะไรไม่ถูกต้อง แล้วไม่ยอมรับว่าตัวผิด มีมากในบ้านเมืองของเรา มีอยู่ทั่วๆไป การไม่ยอมรับว่าตัวผิดนั่นแหละ คือตัวปัญหาของชีวิต เช่นเรื่องสุข …

สมาธิ

สมาธิ ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ คืออะไร

สมาธิ คืออะไร ใครๆ ก็มีได้ แม้แต่สัตว์เดรฉานก็มีสมาธิ เช่น แมวที่รอดักจับหนู หรือ งูที่นิ่งรอเหยื่อ แต่สมาธิที่ควบคู่กับวิปัสสนากรรมฐาน ในทางพระพุทธศาสนา มีวัตถุประสงค์เดียว คือ ขนทุกข์ออกจากจิตใจของสัตว์โลกไม่มีอย่างอื่น และ มีความสงบ ดังกับคำว่า นัตถิ สันติ ปะรัง สุขขัง คือ สุขเสมอความสงบไม่มี ที่สำคัญ สุขแบบความสงบแบบนี้อธิบายไม่ได้ด้วย ต้องเข้าใจด้วยตัวเอง จึงต้องเร่ิมต้นด้วยการทำสมาธิ ความหมายของ สมาธิ แปลตามบาลีแปลว่า ความตั้งใจมั่น สมาธิในความหมายของพจนานุกรม แปลว่า ที่ตั้งมั่นแห่งจิต การทำสมาธิในทางพุทธศาสนา เรียกว่าสมถะ   สมาธิมีกี่ระดับ สมาธิแบ่งออกเป็น 3 ระดับ 1. ขฌิกสมาธิ คือ สมาธิชั่วขณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถนำมาใช้การงานในชีวิตประจำวัน เช่นใช้อ่านหนังสือ หรือขับรถ ขณิกสมาธิ เหมือนเด็กที่เพิ่งหัดเดิน ขณิก(ชั่วขณะ) + สมาธิ(ความทรงไว้พร้อม ความตั้งมั่น) สมาธิที่เป็นไปชั่วขณะ หมายถึง เอกัคคตาเจตสิกที่เกิดกับจิต …

สวดบังสุกุล

เสริมดวง ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ สวดบังสุกุล เป็น – สวดบังสุกุล ตาย คืออะไร

พิธีบังสุกุลก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนนิยมทำเพื่อเสริมดวง แก้เคล็ด สะเดาะเคราะห์และต่อชะตา แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วบังสุกุลคืออะไร  สวดบังสุกุล คืออะไร การทอดผ้าบังสุกุล คืออะไร บังสุกุล แปลว่า ฝั่งแห่งฝุ่น, กองฝุ่น, คลุกฝุ่น, เปื้อนฝุ่น เป็นคำใช้เรียกผ้าที่ภิกษุชักจากศพ หรือผ้าที่ทอดไว้หน้าศพ หรือผ้าที่ทอดไว้บนด้ายสายสิญจน์ หรือผ้าภูษาโยงที่ต่อมาจากศพด้วยการพิจารณากรรมฐานว่า ผ้าบังสุกุล โดยเรียกกริยาที่พระชักผ้าหรือพิจารณาผ้าเช่นนั้นว่า ชักผ้าบังสุกุล หรือ พิจารณาผ้าบังสุกุล ในสมัยพุทธกาลภิกษุต้องแสวงหาผ้าที่เขาทิ้งแล้วจากกองขยะหรือจากป่าช้ามาทำจีวรใช้ ผ้าเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเปื้อนฝุ่นหรือสกปรก จึงเรียกว่าบังสุกุล การทอดผ้าบังสุกุล เป็นการทำบุญอุทิศกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ โดยทอดวางผ้าไตรจีวรหรือผ้าผืนใดผืนหนึ่งในบรรดาผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ เพื่อให้ท่านพิจารณานำไปใช้ ซึ่งในงานฌาปนกิจจะมีการใช้ภูษาโยงหรือด้ายสายโยง (สายสิญจน์) โยงจากโลงศพหรือภาพผู้ล่วงลับมายังพระ แล้วทอดผ้าให้ท่านพิจารณาเปรียบเสมือนสมัยพุทธกาลที่ชาวบ้านทิ้งผ้าไว้ตามป่าช้า เป็นผ้าที่เขาแขวนไว้บ้าง หรือเป็นผ้าของคนที่เสียชีวิตแล้วบ้าง บทสวดมนต์ที่นำมาสวดพิจารณาผ้าบังสุกุลจึงเกี่ยวกับความไม่เที่ยงของสังขาร สวดบังสุกุล คืออะไร การทอดผ้าบังสุกุล คือ การทำบุญให้แก่ผู้ล่วงลับ ดังนั้นการสวดบังสุกุลจึงเป็นการสวดเพื่อให้ผู้ฟังและผู้รับบทสวดเกิดความปลงกับความเที่ยงของสังขาร เพื่อทำใจยอมรับความเป็นไปตามธรรมชาติของโลกเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย บังสุกุลเป็น คืออะไร พิธีสะเดาะเคราะห์อย่างการทำบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย ตามความเชื่อคือ เมื่อรู้สึกว่ามีเคราะห์หรือใกล้จะสิ้นอายุขัย ต้องการที่จะเสริมดวงชะตา ต่อชะตา จึงทำพิธีนี้ขึ้น …